Posted by: krerkkrai | ธันวาคม 22, 2009

วัฒนธรรมท้องถิ่นวิถีชีวิตที่กำลังจะเลือนหาย

      น่าเป็นห่วงสำหรับวัฒนธรรมท้องถิ่นในปัจจุบัน ยิ่งพูดถึงในแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆต่างๆ สถานที่ที่มีการรวมตัวของนักท่องเที่ยวอย่างคาคลั่ง กระแสเหล่านั้นเปรียบเสมือนดาบสองคม ที่กำลังจะทำให้สถานที่ท่องเที่ยวกลับกลายเป็นเพียงสถานรองรับอารมณ์แห่งใหม่ และไปกว่านั้น ยังจะทำให้วิถีชีวิตของผู้คนบริเวณนั้น ถูกกลืนกินจากเทคโนโลยีที่หลั่งไหลเข้ามาตามกระแสผู้คนที่มีความต้องการที่สะดวกสบาย โดยการหยิบยื่นโอกาสของคนเมืองให้คนถิ่นอย่างไม่รู้ตัว ยกตัวอย่างสถานทีท่องเที่ยวบางแห่ง “ปาย” เมืองเหนือที่มีมนต์เสน่ห์เฉพาะ  ความหลงใหลเหล่านั้น ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วไทยต้องกลับมาเยือนอีกเป็นครั้งที่สอง วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน ที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ ภาพเหล่านั้นก็หาไม่ได้จากเมืองหลวง แต่คนในเมืองกำลังจะทำให้เมืองปายไม่แตกต่างอะไรไปจากเมืองหลวง เนื่องด้วยเหตุผลหลายประการ การก่อมลพิษในรูปแบบต่างๆ เริ่มจากมลพิษทางเสียง ที่มีหลายค่ายยักใหญ่เข้ามาจัดงานจัดคอนเสริ์ต สร้างมลพิษทางเสียงโดยรอบ ทำให้ชาวบ้านแถบนั้นเกิดความรำคาญอย่างเกรงใจ ไหนจะขยะ มลพิษตัวฉกาจที่เป็นปัญหาหลัก ตามแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ทั้งนั้น เพราะความไม่มีจิตสำนึกที่ดีของการอนุรักษ์ เหตุผลต่างๆเหล่านี้จึงตามมาเหมือนเป็นเงาตามตัว

     แน่นอนว่าสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยว สถานที่เหล่านั้นย่อมมีเงินสะพัดอยู่ไม่น้อย ปัจจัยเหล่านี้เปิดโอกาสให้นักลงทุนมองเห็นผลประโยชน์จากการลงทุน การกว้านซื้อที่แล้วปรับเปลี่ยนเป็นที่ดินผืนใหม่ ถูกแปรเปลี่ยนเป็นร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ บางธุรกิจก็เอาไปถึงร้านเหล้าสถานเริงรมที่มีให้ขวักไขว่ สภาพไม่แตกต่างไปจากแหล่งท่องเที่ยวเหมือนในเมืองหลวงเรานี่เอง พื้นที่เดิมเหล่านั้นอาจเป็นบ้านเรือนของชาวบ้านที่มีวิถีชีวิตดั่งเดิมมายาวนาน กลับต้องอพยพหาแหล่งทำกินที่ใหม่ สิ่งสำคัญมันอยู่ตรงที่วัฒนธรรมที่ผู้คนเหล่านั้นนำติดตัวไปด้วย หรือบางคนก็ทิ้งล้างวัฒนธรรมดั่งเดิมของตนซะ เพื่อปรับตัวเข้ากับสถานที่แห่งใหม่ ยังมีเหตุผลอีกนานัปการที่ทำให้วัฒนธรรมดั่งเดิมเหล่านั้นถูกทำลายลง แต่เหตุผลที่ผมยกมาก็น่าจะทำให้ผู้คนเห็นภาพได้บ้าง

     ถ้าถามว่าเราทุกคนออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่ออะไร สำหรับผมคงตอบว่า เราออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพบเจอวัฒนธรรมใหม่ๆ วิถีชีวิตของผู้คนท้องที่ ประเพณีดั่งเดิมของคนถิ่น ไม่ใช่แค่ความสะดวกสบายที่ใครๆบางคนสามารถที่จะหยิบยื่นได้ ความสุขเหล่านั้นคงไม่น่าจดจำเท่ากับการค้นพบ ความสุขของการค้นพบต่างหากเป็นความสุขที่แท้จริง และทุกทุกคนก็สามารถหยิบยื่นความสุขนั้นได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ใจเราต้องการ


Responses

  1. เรื่องนี้เท่าที่ทราบมาคือมีคนคิดมานานแล้ว แต่ก็ได้แค่คิดเพราะทำอะไรไม่ได้

    อย่าง “ปาย” ที่ยกตัวอย่างมานั้นเห็นภาพได้ชัดเจนมาก

    ผู้คนในท้องถิ่นโดนวัฒนธรรมของคนนอกพื้นที่ หรือ “คนเมืองหลวง”

    เข้าไปกลืนกิน จนทำให้วัฒนธรรมท้องถิ่นแต่เดิมเริ่มสูญหายไป

    ทั้งๆที่รู้อย่างนี้ แต่หลายๆคนก็ยังจะไป “ทั้งๆที่รู้” และคิดว่า

    เออเดี๋ยวคนอื่นมันก็จัดการเองแหละ

    แน่นอนว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้วัฒนธรรมท้องถิ่นคงจะถูกกลืนหายไปอย่างแน่นอน

    ทีละที่ ทีละที่

    ถึงเวลาแล้วรึยังที่เราควรจะช่วยกันลงมือ”ทำ” มากกว่าคิดแล้วก็ออกมาพูดแค่ลมปาก

    ???

  2. ที่ดังๆ บูมๆ คนไปเยอะหมด ไม่รู้จะกระแสอะไรมากคนไทย แต่ไม่เป็นไรยังมีป่าอีกเยอะที่รอให้คนไปท่องเที่ยว ยังไงก็ต้องท่องไว้ในใจว่า “หายใจลึกๆเมื่อนึกได้”

  3. เป็นเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้ กับสิ่งเหล่านี้ ก็ได้แต่หวังว่า สักว่ามันอาจจะดี ขึ้น เพราะ ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปตามกาลเวลาที่ไม่รู้จักหยุดนิ่ง

  4. เราว่านะ ปายตอนนี้เริ่มช้ำเเล้วอ่ะ นักท่องเที่ยวเดินทางไปกันเยอะมาก มีจัดเทศกาลก็มาก ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่คนเทียวกันเยอะ เงินไหลเข้าสู่ท้องถิ่นมากดี แต่บางครั้งมันก็ทำให้วัฒนธรรม หรือแบบแผนชีวิตต่างๆของคนท้องถิ่นเริ่มเลือนหายไปเหมือนกัน

  5. อืม…เห็นด้วยๆ…

    กับที่ว่าวัฒนธรรมท้องถิ่นกำลังจาเลือนหายไป

    ก็จะเป็นไปด้วยเหตุอารายนอกจากจะเปนเหตุที่ว่า

    ณ. ปัจจุบันนั้นเทคโนโลยีนั้นทันสมัยขึ้นมาก

    แต่ถึงยังงั้ยนั้นก้อยังคงชอบวัฒนธรรมท้องถินอยุ่

    และไม่อยากหั้ยมันเลือนหายไป
    * 0*/

  6. การท่องเที่ยวในแต่ละครั้งของเรา มันก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่แล้ว เพราะเราไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน ถึงจะได้กลับไปเที่ยวที่เดิมๆ เก่าๆ ที่เราเคยไปแล้วก็ตาม แต่กาลเวลาก็สามารถทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป อย่างที่คุณบอกล่ะ อย่างหนึ่งที่มันต้องเปลี่ยนก็คงเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นของสถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละที่

    แต่ถึงอย่างไง ชาตินี้ ขอเที่ยวให้ทั่วไทยด้วยเถอะ สาธุ!!!

  7. เรื่องของวัฒนธรรมมันเป็นสิ่งที่ทำสืบทอดกันมาเป็นธรรมเนียมอะไรก็ตามที่เคยทำมาแต่ก่อนก็จะมีการสือบทอดกันไปมาจนเป็นวัฒนธรรมและตัววัฒนธรรมนี่เองที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์และเครื่องหมายของความเป็นเอกลักษณ์ที่งดงาม

    แม่อเห็นเราสามารถบอกได้ทันทีเลยว่าที่นี่คือที่ไหน อย่างเช่น คนกระเหลี่ยงจะมีวัฒนธรรมของการใส่หวงคอยาว ที่ดูน่าค้นหา ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าศึกษาแต่ทว่านับวันวัฒนธรรมของต่างประเทศกำลังที่เข้ามาบทบังวันธรมมไทยที่ดีงามเพียงเพราะค่านิยมเพียงชัวขณะจึงทำให้วัฒนธรรมบางส่วนเลยหายไปพร้อมกับคำว่าเชยและพัฒนาซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าจิงๆ

  8. ในยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาเพื่ออำนวยความสะดวก และมีพวกหัวการค้าหรือนักธุรกิจเข้ามาลงทุนย่อมมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำของมาขาย ตั้งสถานที่เริงรมย์ หรือฯลฯ จึงทำให้วัฒนธรรมดั้งเิดิมเลือนหายไป จากเดิมคนที่เดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ พวกเขาก็ย่อมคาดหวัว่าจะได้เห็นวัฒนธรรมของสถานที่นั้น แต่ในยุคปัจจุบันมันได้แปรเปลี่ยนไปแล้ว ถึงอย่างนี้จึงทำให้เยาวชนรุ่นหลังไม่สามารถสืบต่อกันได้

  9. จริงที่สุด..

    วัฒนธรรมใท้องถิ่น มักจะเลือนหายไปพร้อมๆกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า

    ไม่เพียงแต่ในเรื่องการท่องเที่ยวหรอก

    ยังมีสิ่งอื่นอีกมากมายที่ต้องเลือนหายไปพร้อมๆกับความเจริญก้าวหน้าและค่านิยมที่ผิดๆ

    น่าคิดดีนะ..

    ถ้าเราทุกคนยังคิดกันไม่ได้

    ต่อไปคงไม่มีวัฒนธรรมอันดีงามเหลือไว้ให้เราได้เห็นอีก…0

  10. อืมมัวแต่รับวัฒนธรรมใหม่ๆ เพราะสิ่งเก่าๆมันไม่เทรนประกอบกับค่านิยมต่างชาติที่ส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรม อีกหลายๆปัจจัยหากไม่รับแก้ไขปัญหา วัฒนธรรมจะไม่แค่เลือนหายแต่จะหายไปเลย

  11. ที่ที่เขาว่าสวย..คนมักจะแห่กันไปเที่ยว
    ผลที่ตามมาก็ทำให้เทคโนโลยีและความเจริญแห่ตามกันเข้ามา
    ส่งผลให้วัฒนธรรมที่มีอยู่ดั้งเดิมเปลี่ยนแปลงไป

    แต่ถึงอย่างไรหากคนในชุมชนร่วมใจกัน
    ไม่ยอมรับและยังคงอนุรักษ์สิ่งที่มีอยู่ดั้งเดิมไว้
    ไม่ว่าจะอย่างไร..ก็ไม่เีปลี่ยนแปลงได้

  12. บางครั้งการท่องเที่ยวก็ทำให้เราได้พบบ้านแห่งใหม่สำหรับคนที่ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง เช่น อัมพวา คงมีหลายคนที่ไปเที่ยวแล้วอยากได้บ้านซักหลังแถวนั้น แต่กลับเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะซื้อ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวทั้งที่ไม่ได้อยู่แถวสยามด้วยซ้ำแต่ราคาที่ดินกลับต้องใช้เงินซื้อกว่า10ล้าน กลายเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับคนหัวหมอซึ่งกว้านซื้อที่ก่อนที่มันจะแพง พวกเราก็ได้แต่เข้าไปชมวัฒนธรรมที่พวกเขาใช้ชีวิตกันโดยไม่อาจไปสัมผัสได้จริง


ส่งความเห็นที่ paweenrat ยกเลิกการตอบ

หมวดหมู่